xml sitemap generator

นมจากเนื้อไก่ 
สืบเนื่องมากน้องปัน ปัน ตอนที่แรกเกิดใหม่ๆ เป็น “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” อย่างรุนแรงคนที่เป็นพ่อ และเป็นแม่ก็เป็นทุกข์ เป็นร้อนแทนลูกเพราะกลัวว่าลูกจะกินนมชนิดไหนได้บ้าง ซึ่งเกิดมาบอกตรงๆ พ่อปัน ปัน ก็เพิ่งเคยได้ยินว่ามี “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” ด้วยจึงได้ไปสอบถามผู้รู้ และค้นหาตาม Interner โดยตั้งหัวข้อการค้นหาแบบทั่วๆ ไปคำหลักๆ ที่ใช้ก็คำนี้ “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” และ “เด็กแพ้โปรตีนจากนมวัว” ซึ่งผลการค้นจากูเกิลออกมาเยอะมากและเป้นที่น่าพอใจ เลยนึกในใจว่าน้องปัน ปัน มีเพื่อนแล้ว เพราะว่าเด็กเล็กๆ ที่เกิดใหม่เป็น “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” เยอะมากจนน่าเป็นห่วงครับ

และอีกหนึ่งบทความที่พ่อปัน ปัน ไปค้นเจอจาก Internet ก็เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ที่ค้นพบและสกัดนมจากเนื้อไก่ ซึ่งมีสารอาหารต่างๆ เหมือนนมทั่วๆไปครับ โรงพยาบาลศิริราชเป็นที่ซึ่งทำการค้นพบและประกาศเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับรู้ คุณพ่อและคุณแม่ ที่มีลูกน้อยเป็น “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” ลองอ่านดูและใช้เป็นทางเลือกในการซื้อหามาให้ลูกน้อยกินกัน ซึ่งราคาก็จะถูกกว่านมที่ใช้เฉพาะสำหรับเด็กที่เป็นโรคนี้ ซึ่งสำหรับน้องปัน ปัน ตอนนี้ไม่ได้กินนมที่สกัดจากเนื้อไก่ครับ แต่กิน “นมนูตรามีเจน” ครับ



ครั้งแรกของโลก

ศิริราชผลิตนมจากเนื้อไก่

รักษาทารกแพ้นมวัว

วันนี้ (10 ส.ค. 2550 ) เวลา 10.00 น. ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เป็นประธานแถลงข่าวเรื่อง “ครั้งแรกของโลก ศิริราชผลิตนมจากเนื้อไก่ รักษาทารกแพ้นมวัว” ร่วมกับ รศ.นพ.ธราธิป โคละทัต หัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ หัวหน้าสาขาวิชาโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และ 3 ครอบครัวผู้แพ้นมวัว ซึ่งหันไปกินนมจากเนื้อไก่แทน ด.ญ.เปมิกา – ดญ. ปาณิศา ณ ลำพูน บุตรสาวนางกนกวรรณ ณ ลำพูน ด.ช.ปวเรศเทวหสกุลทอง บุตรชายนายปวริศ เทวหสกุลทอง และ ด.ญ.รสกร เจริญสุข บุตรสาวนางรัตนา ตั้งจิตตรชอบ ณ ห้องประชุมคณะฯ ตึกอำนวยการ ชั้น 2

ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ และคณะผู้วิจัย จากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ได้แก้ปัญหาสำคัญของผู้ป่วยเด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวด้วยการคิดค้นและผลิตนมจากเนื้อไก่แทน โดยยังคงคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ย่อยง่ายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

จากสถิติเด็กไทย เกิดปีละ 8 แสนคนต่อปี มีเพียงร้อยละ 20 ที่เลี้ยงดูด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน นอกนั้นเลี้ยงด้วยนมวัวประมาณ 6 แสนคน ในจำนวนนี้มีอาการแพ้ร้อยละ 3 หรือประมาณ 20,000 คนต่อปี จากสถิติที่กล่าวมา โรคแพ้โปรตีนนมวัวในเด็กมีแนวโน้มสูงมากขึ้น และกำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขของทุกประเทศ โดยแพทย์มักเปลี่ยนเป็นนมถั่ว หรือสูตรนมชนิดพิเศษที่มีการย่อยโปรตีนในนมเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีทารกอีก จำนวนหนึ่งที่แพ้นมพิเศษเหล่านี้ และจากรายงานทางการแพทย์หลายแห่งระบุว่า ถ้าแพ้โปรตีนนมวัว นมถั่ว หรือนมอื่น ๆ ให้ลองกินเนื้อไก่ดู จึงเป็นแรงบันดาลใจให้นำเนื้อไก่มาปรุงด้วยวิธีพิเศษและเติมสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับทารก จนได้เป็นเนื้อนมที่เนียนละเอียดมาก จากนั้นนำมาแช่แข็งที่ – 72° C และนำมาละลายเมื่อจะกิน ซึ่งทารกสามารถดูดนมจากเนื้อไก่นี้ได้จากจุกนมปกติ นอกจากนี้ยังได้ส่งนมจากเนื้อไก่ไปยังกรมวิทยาศาสตร์บริการเพื่อตรวจวัดคุณค่าสารอาหารต่างๆ พบว่า นมจากเนื้อไก่นี้มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนได้มาตรฐานสำหรับทารก

ต่อมาได้ทำการวิจัยในทารกที่แพ้โปรตีนนมวัว โดยเปรียบเทียบการกินนมจากเนื้อไก่ 20 ราย และนมจากถั่วเหลือง 18 ราย เป็นเวลา 14 วัน (งานวิจัยนี้ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล) ผลจากการวิจัยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยทารกเหล่านี้ มีอาการแพ้นมจากเนื้อไก่น้อยกว่านมจาก ถั่วเหลืองถึง 8 เท่า นอกจากนี้ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีทารกอีกจำนวนหนึ่งที่ขอกินนมจากเนื้อไก่มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป เนื่องจากทารกเหล่านี้แพ้นมทุกชนิดในประเทศไทย แต่กินนมจากเนื้อไก่ได้ดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ มีการเจริญเติบโตเป็นปกติ และในภายหลัง ทารกเหล่านี้สามารถกลับไปกินนมวัวได้โดยไม่มีอาการแพ้ รายละเอียดของการศึกษานี้จะตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ “Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition” ซึ่งทางคณะผู้ผลิตได้จดสิทธิบัตรสูตรนมจากเนื้อไก่แล้วเมื่อเดือนกันยายน 2549 สำหรับโครงการต่อไปจะศึกษาเปรียบเทียบการกินนมวัวและนมไก่ในระยะยาว รวมทั้งจะพัฒนาต่อยอดเป็นสูตรอาหารสำหรับเด็กโตและผู้สูงอายุ  

โรคแพ้โปรตีนนมวัวในเด็ก เกิดจากเด็กไม่สามารถรับโปรตีนที่มีอยู่ในนมวัวได้ ประกอบกับในระยะ 4-6 เดือนแรก เยื่อบุทางเดินอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบน้ำย่อยสารต่าง ๆ ของทารกยังไม่แข็งแรง นอกจากนี้ทารกที่มีประวัติครอบครัวหรือบิดามารดาเป็นโรคภูมิแพ้และยังได้รับนมผสมหรือนมวัวจะมีโอกาสเกิดโรคแพ้โปรตีนในนมวัวสูงกว่าเด็กปกติทั่วไป โดยโรคนี้มักเกิดในขวบปีแรกของทารก ทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ อาทิ อาการผิวแห้ง มีผื่นคันเรื้อรังที่ใบหน้าและลำตัว มีเสมหะครืดคราดในลำคอ คัดจมูกหรือไอเรื้อรัง บางรายอาจิปวดท้อง ร้องกวน อาเจียน ท้องเสียหรือท้องผูก ในรายที่รุนแรงอาจเป็นหอบหืดเรื้อรัง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคหอบหืดเมื่อโตขึ้น และในรายที่มีอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ตั้งแต่วัยทารก
ที่มา: http://www.si.mahidol.ac.th/th/hotnews_detail.asp?hn_id=41


ถ้าหลายๆ ท่านได้ดู TV และเคยเห็นโฆษณาชิ้นหนึ่งซึ่งพ่อปัน ปัน ก็จำไม่ได้ว่าโฆษณาอะไร แต่จำคำที่เค้าสือสารให้เราภูมิใจในความเป็นไทยก็คือ “คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” คำๆ นี้มีความหมายในตัวอยู่แล้วครับ

นมสกัดจากเนื้อไก่นอกจากจะมีส่วนช่วยเด็กที่เป็น “โรคแพ้โปรตีนจากนมวัว” แล้วก็ยังมีส่วนช่วยเกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงไก่ด้วยนะครับเพราะกว่าจะมาเป็นนมก็ต้องมาจากไข่ไก่ก่อน แล้วก็โตเป็นไก่ให้ได้นำเอาเนื้อมาสกัดเป็นนมที่ให้เด็กทานครับ อยากลืมนะครับนมจากเนื้อไก่ก็เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการใช้เลี้ยงลูกน้อยครับผม

0 ความคิดเห็น